บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) วางกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เดินเกม ตั้งทีมขายเปิดสำนักงานขายในเซี่ยงไฮ้ ไทยเป ผ่านบริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด หวัวขยายพอร์ต ต่างชาติ ตั้งเป้า 5 ปี ทำรายได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมผุดโปรเจกต์ใหม่ทั้งแบบคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ไฮไรส์ และทาวน์โฮม มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท มั่นใจ ปีนี้ รายได้ทุบสถิติ แตะ 4,500 ล้านบาท ระบุล่าสุด ตุน Backlog ในมือแล้วกว่า 8,000 ล้านบาท อวดผลงานครึ่งปีแรกสอบผ่านฉลุย กวาดรายได้รวม 1,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% กำไรสุทธิ 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% ขณะที่ Q2/62 มีรายได้รวม 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49%
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยถึงแผนการลงทุนใน 3 ปีว่า จะลงทุนว่าจะประกอบด้วย 4 ธุรกิจ ประกอบด้วย 1. ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์(Real estate international brokerage ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนและนายหน้าขายอสังริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ ทั้งที่เป็นโครงการของบริษัท และที่ไม่ใช่ของบริษัท ตั้งเป้าอีก 5 ปีทำรายได้กว่า 10,000 ล้านบาท โดยตั้งทีมบริหาร 4 ท่าน 4 สัญชาติจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เข้าไปขยายฐานในการดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบการเปิดสำนักงานขาย ในเซี่ยงไฮ้ และไทเป
2.การลงทุนในโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว( Investment in completed projects) ภายใต้บริษัท Rise venture เช่น การซื้อห้องแบบบิ๊กล็อต เพื่อนำมาตกแต่งแล้วขายต่อ 3. ธุรกิจรับบริหารโครงการ (property management ) โดยบริษัท All Property Service 4. ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ( Recurring income ) ซึ่งจะมาจาก ธุรกิจบริการ ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงาน
ในส่วนของที่อยู่อาศัย สัดส่วนการพัฒนา เป็นคอนโดมิเนียม 75 % บ้าน 25 % โดยในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้จะมาจากการการพัฒนาโครงการ 70 % ธุรกิจที่ทำรายได้ประจำ 20 % ธุรกิจบริการและนายหน้า 10 %
สำหรับครึ่งปีหลัง 2562 ได้เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท ทั้งแบบคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ไฮไรส์ และทาวน์โฮม โดยล่าสุดเตรียมเปิดโครงการ The Vision Ladprao – Nawamin Phase II คาดจะเปิดขายในช่วงวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ในขณะที่โครงการ The Excel Ladprao – Sutthisan ที่เปิดตัวไปช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเพียงวันเดียว ลูกค้าแห่จองกวาดยอดขายแล้วกว่า 850 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 70% ของมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ดังนั้นจากความสำเร็จที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำให้เชื่อมั่นว่า ในทุกๆ โครงการที่เตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆ ก็คงจะได้ผลตอบรับที่ดีแบบนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า (The New Forum Plaza ) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ 11-3-74 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ Gross Building Area รวม 34,952 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่า (Gross Leasable Area) 11,593 ตารางเมตร โดยมีอายุสัญญาเช่า 29 ปี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแตกไลน์ทางธุรกิจจากอสังหาริมทรัพย์ไปยัง Shopping Mall ว่า ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างไปตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดกว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2563 และจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 2564 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว เข้ามา 5,800 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาเช่า ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2562 มีอัตราการเติบโตตามที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ โดยกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% และมีกำไรสุทธิ 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% และมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยบริษัทฯ มีโครงการสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ (The Vision Ladprao – Nawamin) มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท, 2.โครงการ อิมเพรสชั่น ภูเก็ต (Impression Phuket) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และ 3.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 (The Excel Hideaway Sukhumvit 71) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
จากแผนการเปิดโครงการใหม่ ๆ ทำให้บริษัทฯมีความมั่นใจว่า รายได้ปี 2562 ยังคงเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ในระดับ 4,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 มีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 – 4 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท โลว์ไรส์ 5,520 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมประเภท ไฮไรส์ 2,240 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม 240 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าสร้างแล้วเสร็จที่พร้อมขายและโอนกรรมสิทธิ์ (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 201 ล้านบาท จากโครงการ The Excel Khukot และ Rise Rama 9
พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า (The New Forum Plaza ) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ 11-3-74 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ Gross Building Area รวม 34,952 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่า (Gross Leasable Area) 11,593 ตารางเมตร โดยมีอายุสัญญาเช่า 29 ปี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการแตกไลน์ทางธุรกิจจากอสังหาริมทรัพย์ไปยัง Shopping Mall ว่า ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างไปตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดกว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2563 และจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 2564 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว เข้ามา 5,800 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาเช่า ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%
“