เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศวิสัยทัศน์ ผู้พัฒนาโลกแห่งอนาคต ทุ่มงบ 120,000 ล้านบาท ใน 5 ปี พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ครอบคลุมกว่า 30 จังหวัด โดยใช้ศูนย์การค้าเป็นหัวหอกรวม 50 โครงการ ที่พักอาศํย 68 โครงการ อาคารสำนักงาน 13 โครงการ โรงแรม 37 โครงการ พร้อมลุยศึกษาธุรกิจช้อปปิ้งมอลล์ พร้อมตั้งเป้า Net Zero ปี 2593
นางวัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) พัฒนาธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ เดินหน้าด้วยงบลงทุน 120,000 ล้านบาท ใน 5 ปี กับกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน ผนึกกำลังธุรกิจมิกซ์ยูส คู่ค้า ชุมชน สร้างมาตรฐานใหม่ของพื้นที่การใช้ชีวิตแห่งอนาคต และมุ่งสู่องค์กรแห่งการสร้างโอกาส พัฒนา ‘คน’ พัฒนาเมืองและประเทศ และยกระดับวงการอสังหาฯ และรีเทลของไทย โดยมีการโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆทั้งในปัจจุบันและอนาคต มากกว่า 30 จังหวัด ประกอบด้วยศูนย์การค้า 50 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ โครงการที่พักอาศัย 68 แห่ง, อาคารสำนักงาน 13 แห่ง และโรงแรม 37 แห่ง และคอมมูนิตี้มอลล์ 16 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการศึกษาการขยาย, โดยมากกว่า 50% ของโครงการทั้งหมดจะเป็นรูปแบบมิกซ์ยูสที่มีมากกว่า 1 ธุรกิจ และมีศูนย์การค้าเป็นหัวใจสำคัญ โดยเร่งขยายการเติบโตของทุกๆ ธุรกิจพร้อมกันไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดจะเชื่อมโยงยกระดับการใช้ชีวิตทุกรูปแบบทั้ง shop-work-stay-play-live ด้วยโครงการรีเทลที่เติมเต็มทุกฟอร์แมตและเทรนด์ใหม่ๆ, โครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์ในเครือเพื่อลูกบ้านเซ็นทรัล พร้อมเชื่อมต่อออฟฟิศให้เป็นสถานที่ที่ทำงานที่ดีที่สุดเพราะใกล้ศูนย์การค้าและโรงแรม รวมถึงปั้นโรงแรมแบรนด์น้องใหม่ เพื่อยกระดับทำให้ทุกเมืองเป็นเมืองท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังได้ตั้งทีม Business & Digital Transformation ลงทุน 450 ล้านบาทในปี 2022 เพื่อเชื่อมโยงการช่องทางการเข้าถึงลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน Omnichannel อีกทั้งมุ่งมั่นสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจของคู่ค้า ด้วยการจัดตั้งทีม พาร์ทเนอร์ แชมเปี้ยน (Partner Champions) ให้กับคู่ค้าอย่างครบวงจร
การพัฒนาทุกโครงการของเซ็นทรัลพัฒนา จะมีส่วนสะท้อนอัตลักษณ์ ของชุมชน ทั้งได้ด้าน ศิลปะและวัฒนธรรม รวมไปถึงการกระจายรายได้ให้กับชุมชน โดยได้จัดสรร 40,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทต่อปี ให้เป็นพื้นที่ค้าขายของผู้ประกอบการ และเกษตรกรในชุมชน
นางกัลยา กล่าวต่อไปว่า ตามแผนที่ตั้งไว้ในปี 2593 จะเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนออกเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emission )ด้วยแผนระยะยาว เริ่มจากการลดการใช้พลังงานให้ได้ 50% ลดการใช้ CFC และสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ให้ได้อีก 50% นอกจากนี้เรายังตั้งเป้าปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอกโครงการให้ได้ถึง 1 ล้านต้นโดยเร็ว ด้วยมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากล ที่มีการติดตั้งเซลล์ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในทุกโครงการ, พัฒนาอาคารอัจฉริยะ การเพิ่มจุดชาร์ต EV และ สถานีรีไซเคิล สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอก ให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมาใช้ได้จริง รวมถึงพื้นที่เพื่อชุมชน เช่น ลานออกกำลังกาย, สนามเด็กเล่น, ศูนย์การเรียนรู้, ศูนย์ฉีดวัคซีน, พื้นที่รับบริจาคโลหิต, พื้นที่เพื่อ นันทนาการสำหรับชุมชน เป็นต้น
อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ทุกคน ด้วยการเป็นองค์กรแห่งการสร้าง ‘โอกาส’ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ จับคู่ทางธุรกิจ และขยายไปทั้งในและต่างประเทศ ผ่านโครงการ Central Pattana Lead และ Retail Academy
เซ็นทรัลพัฒนามีส่วนช่วยสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจเทียบเท่าประมาณ 1% ของ GDP ของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และในอีก 5 ปีข้างหน้า จะยังคงเติบโตเช่นนี้ และทำให้เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 150,000 ตำแหน่ง