บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR โชว์ความสำเร็จ เติบโตสวนกระแส พร้อมคว้ายอดโอนฯ รวมกว่า 1,000 ล้านบาทในไตรมาส 3 เติบโตขึ้นราว 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แย้ม Backlog แน่น ปั้นโครงการใหม่ พร้อมเปิดชมคอนโดดาวเด่นน้องใหม่แห่ง รัชดา-ห้วยขวาง “ควินทารา มาย’เจน” หนึ่งในความสำเร็จจากยอดขายและยอดโอน ในปี 2567 นี้
นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา นับว่ามีปัจจัยลบหลายด้านที่ทำให้ตลาดเกิดการชะลอตัว แม้ภาครัฐจะมีนโยบายมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ ค่าจดจำนอง พร้อมขยายเพดานในกลุ่มบ้านราคา 7 ล้านบาท แล้วก็ตาม แต่ยังไม่สามารถดึงกำลังซื้อให้กลับมาได้เท่าปีก่อนๆ เนื่องจากมาตรการเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ที่มีผลมาจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นในปีนี้ ทำให้ภาพปัจจุบัน และอนาคต ของอสังหาฯ ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเหล่านี้ในระยะยาว พร้อมกับ Unknown Factors อีกมากมาย แต่ในธุรกิจอสังหาฯ ยังต้องมีเดินหน้าลงทุนเพื่อต่อลมหายใจต่อไป ด้าน ESTAR ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว โดยได้วางกลยุทธ์ในการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อเพิ่มยอดขาย และยอดโอนฯ อย่างต่อเนื่อง
ESTAR ได้เปิดโครงการใหม่ครบ 3 โครงการ 100% ตามแผนมูลค่ากว่า 1,600 ลบ. เดินหน้าเต็มสูบ โดยเปิดโครงการใหม่ทั้งในฝั่ง จ.ระยอง และกรุงเทพฯ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภา บ้านฉางโครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง และโครงการ ทาวน์โฮม ESTON ลาดกระบัง- สุวรรณภูมิ
นายไพโรจน์ กล่าวถึงความสำเร็จของ ESTAR เพิ่มเติมว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เคยประกาศเปิดตัว ควินทารา มาย’ ซีรีย์ คอนโดใจกลางเมือง 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายดำเนินการก่อสร้างและรับรู้รายได้ในบางโครงการในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 นั้น ตอนนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะ โครงการควินทารา มาย’เจน รัชดา-ห้วยขวาง ซึ่งเป็นโครงการ Highlight ที่สำคัญ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอยู่ในทำเลที่มีกำลังซื้อสูง มี Supply พร้อมอยู่ไม่มากนัก “รัชดา-ห้วยขวาง” จึงเป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีการกล่าวถึงว่าเป็นทำเลที่ไม่เคยหลับใหล RISING STAR LOCATION? คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก โดยเฉพาะทำเลรัชดา-ห้วยขวาง มีจุดเด่นไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่อยู่ของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ใกล้สถานทูตที่สำคัญ 3 แห่ง อาทิ สถานทูตจีน สถานทูตสเปน และสถานทูตเกาหลี มีโรงแรมระดับ 3-5 ดาวเป็นจำนวนมาก กว่า 96 โรงแรม รวมถึงอาคารสำนักงานและออฟฟิศชั้นนำ เช่น อาคาร AIA Capital Center อาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อาคาร G Land Tower พร้อมยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายทั้งกลางวันและกลางคืน เช่น ห้างสรรพสินค้า Central พระราม 9 The Esplanade ตลาดนัด Jodd Fair รวมทั้งยังใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ รพ.กรุงเทพฯ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท รพ. พระราม 9 และ รพ. ปิยะเวช อีกทั้งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ชั้นนำ 3 แห่ง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ทำเล “รัชดา-ห้วยขวาง” ยังมีจุดเด่นเรื่องการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า 5 สาย ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สายสีส้ม สายสีเหลือง สายสีเขียว และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ซึ่งโครงการ ควินทารา มาย’เจน รัชดา-ห้วยขวาง มีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 383 ยูนิต ขนาด 21 ตารางเมตร ราคา 2.29 ล้านบาท ขนาด 23 ตารางเมตร ราคา 2.89 ล้านบาท ขนาด 27 ตารางเมตร ราคา 3.4 ล้านบาท ขนาด 42 ล้านบาท ราคา 5.2 ล้านบาท
โครงการ ควินทารา มาย’เจน รัชดา-ห้วยขวาง ห่างจากถนนรัชดาภิเษก 90 เมตร และใกล้ MRT สถานีห้วยขวาง เพียง 350 เมตร ขณะที่โครงการฯ ยังมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 4 ชั้น มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน 3 กลุ่มใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพนักงานโรงแรมในพื้นที่ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา และกลุ่มพนักงานโรงพยาบาล ส่งผลให้มียอดขายแล้วกว่า 60% และคาดการณ์ยอดโอนฯจากโครงการดังกล่าวในไตรมาส 3 นี้จะส่งผลให้ภาพรวมของยอดโอนฯ Estar แตะ 1,000 ลบ. ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้
โดยบริษัท มี Backlog รอโอนในไตรมาส 4 ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ทั้งในกรุงเทพฯ และบ้านฉาง จ. ระยอง กว่า 700 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการคอนโดมีเนียม ควินทารา มาย’เซน พร้อมพงษ์ ซึ่งมียอด Backlog รอโอนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทยอยโอนได้ในเดือนตุลาคมนี้ และจากความสำเร็จของการดำเนินงานในแต่ละโครงการที่เป็นไปตามแผน คาดว่าจะมีรายได้ทั้งปีมาตามนัดที่ 1.7 พันล้านบาท นอกจากนี้ ESTAR ยังมี Backlog ตุนไปถึงปี 2568 อีกราวกว่า 1,000 ล้านบาท
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่าบริษัท ตั้งเป้าโต 25 % อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนการที่จะพัฒนาโครงการระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งบริษัทมีที่ดิน ย่านบางแพรก พุทธมณพลสาย 1 เนื้อที่ 30 ไร่ จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 20-50 ล้านบาท จำนวน 57 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท ขณะนี้มีการดีไซน์รูปแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเปิดโนปีหน้า และอีก 1 โครงการที่บ้านฉาง จ.ระยอง