กลุ่มบริษัทเอ็นริช จับมือ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป จากญี่ปุ่น ผุด “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” ชูแนวคิดการดีไซน์ที่คำนึงถึงทุกรายละเอียด เพื่อตอบรับทุกจังหวะของการใช้ชีวิต ในขณะที่บ้านกลุ่มไฮเอ็นด์ และลักซ์ชัวรี ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นนอกฝั่งตะวันตกไตรมาส 1 สัดส่วนเพิ่มสูงกว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2566
นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่าปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยล่าสุด ได้พัฒนาโครงการ “The Article North Ratchaphruek (ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์)” มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท โดยได้ร่วมทุนกับอนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป (Anabuki Kosan Group) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 จากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเล็งเห็นการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลราชพฤกษ์ที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี แม้ว่าการแข่งขันในทำเลดังกล่าวจะมีสูงแต่เชื่อมั่นว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดที่สามารถเข้าไปเจาะและแข่งขันได้
“เรามองว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ มีความท้าทายในหลายๆ ด้านและตลาดมีการแข่งขันสูง การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านของผู้บริโภคใช้เวลานานขึ้น แต่แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเดินหน้าเพื่อให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมจนถึงระดับลักซ์ชัวรียังมีกำลังซื้อสูง จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อรองรับกับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเลือกทำเลที่มีศักยภาพ พัฒนาโครงการให้มีจุดเด่นที่น่าสนใจด้วยฟังก์ชันและนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยที่ตอบ
ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทเอ็นริช มีโครงการอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบที่พัฒนาออกสู่ตลาด ทั้งยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพหลายรายในการพัฒนาโครงการร่วมกัน ในปีนี้กลุ่มบริษัทเอ็นริชได้ร่วมมือกับ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป พัฒนาโครงการดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์ และยังได้ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย (CBRE Thailand) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาเป็นตัวแทนที่ปรึกษาทางการตลาด และบริหารงานขายให้กับโครงการอีกด้วย จึงมั่นใจว่าโครงการที่เอ็นริชพัฒนาออกมา มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของ ดีไซน์ ฟังก์ชัน และการเลือกใช้วัสดุ ทำให้โครงการมีความแตกต่างจากคู่แข่งและเป็นที่ต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี “นายอนวัช กล่าว
โครงการ “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” เป็นบ้านเดี่ยว 3.5 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 24 ไร่ ราคา 15.9-28 ล้านบาท จำนวน 117 ยูนิต แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส คาดปิดการขายได้ในปี 2568 เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สร้างความเป็นส่วนตัวสูงสุด มีจุดเด่นสถาปัตยกรรมทันสมัย เน้นการออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเลือกพัฒนาทำเลราชพฤกษ์ ที่มองเห็นแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มกระจายตัวจากใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง พร้อมตอกย้ำแนวคิด “Guiding You to Practical Living” หรือการเป็นคู่คิดสำหรับการใช้ชีวิตจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยได้อย่างลงตัว และสร้างสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน รวมถึงยังผสานกับแนวคิดการจัดบ้านแบบ “คอนมาริ” นักจัดบ้านชื่อดังระดับโลก “มาริเอะ คอนโดะ” ซึ่งเอ็นริชเป็นเจ้าแรกของประเทศที่นำแนวคิดนี้มาใช้ในธุรกิจอสังหาฯ
ด้านนางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวว่า แนวคิดที่กลุ่มบริษัทเอ็นริชยึดถือมาโดยตลอดในการพัฒนาโครงการ คือ “Guiding You to Practical Living” เป็นการคำนึงถึงทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต โดยเน้นในเรื่องคุณภาพและโปรดักส์ที่น่าสนใจ นำมาพัฒนาโครงการ ให้มีจุดเด่น ใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการแรกในการออกแบบ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ลูกค้าได้เข้าอยู่ ลูกค้าต้องได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดรวมถึงยังผสานกับแนวคิดการจัดบ้านแบบ “คอนมาริ” ของนักจัดบ้านชื่อดังระดับโลก “มาริเอะ คอนโดะ” ซึ่งเอ็นริชเป็นเจ้าแรกของประเทศ ที่นำแนวคิดนี้มาใช้ในธุรกิจอสังหาฯ
“ด้วยการแข่งขันที่สูงของตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่เดียวกัน เราจึงยิ่งเน้นพัฒนาโครงการให้มีดีไซน์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องประสบการณ์การอยู่อาศัยร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของเราคือ การที่เราคำนึงถึงการใช้ชีวิตที่หลากหลาย เราจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างได้ด้วยระบบ Customization เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อาศัยปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์ และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทำเลที่ตั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ซึ่งโครงการ The Article North Ratchaphruek อยู่ใกล้กับ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เพียง 300 ม. เท่านั้น” นางสาวสุพิชา กล่าว
ส่วนนายมาซาอากิ คากาวะ กรรมการผู้จัดการ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจในหลากหลายรูปแบบมา 60 ปี โดยในส่วนของประเทศไทย มีการลงทุนสูงสุดเมื่อเทียบกับ เวียดนาม อินโดนีเซีย โดยในส่วนของไทยได้เข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นปีที่ 5 ร่วมทุนกับ 2 บริษัท ล่าสุด ร่วมทุนกับ บริษัท เอ็นริช พัฒนาโครงการ“ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” “เราเห็นว่าโปรดักส์ของเอ็นริชนั้นมีความโดดเด่น เป็นที่ดึงดูดความสนใจของเรา เรามองว่าเอ็นริช พัฒนาโปรดักส์ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่บริษัทเอ็นริชได้ใส่ใจเป็นพิเศษ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบาย และการเลือกทำเลการพัฒนาโครงการที่ดีรวมไปถึงมีการวางแผนงานที่ดีอีกด้วย” นายมาซาอากิ กล่าว
ขณะที่ นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 มีการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรใหม่มากถึง 31 โครงการ รวม 5,032 ยูนิต มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 15.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 ถือเป็นสัญญาณบวก โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2565-2567 ตลาดบ้านโซนกรุงเทพชั้นนอกฝั่งตะวันตก มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 145% ในปี 2565 และ 18% ในปี 2566 ทั้งนี้สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ยังพบอีกว่าทำเลนี้มีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านสูงที่สุดในกลุ่มทำเลกรุงเทพชั้นนอกซึ่งประกอบไปด้วย 4 ทำเลด้วยกัน ซึ่งหากพิจารณาเจาะลึกเฉพาะกลุ่มเซกเมนต์ไฮเอ็นด์ขึ้นไปในปี 2566 ยังพบด้วยว่ามีการเปิดตัวโครงการบ้านทั้งปีเพิ่มขึ้นกว่า 227% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ทยานสูงขึ้นว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันใน ปี 2566
นางสาวอาทิตยา กล่าวเสริมอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านหรูในโซนราชพฤกษ์เติบโตเป็นเพราะศักยภาพของทำเลที่มีองค์ประกอบสนับสนุนให้ทำเลราชพฤกษ์กลายเป็น New Luxury Hub กล่าวคือ การมีความสมบูรณ์ของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งการสร้างและขยายถนน อาทิ ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ การขยายถนนชัยพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์เชื่อมกับสะพานพระราม 4 ถนน 10 เลน รวมถึงเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู ส่งผลให้เกิด Connectivity ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อพื้นที่ได้ทั้ง 3 จังหวัด ทั้งกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี การพัฒนาโครงการ Shopping Mall ขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนในโซนราชพฤกษ์ เช่น Robinson Lifestyle Ratchaphruek, Central Westgate, Central Westville, และ Lotus’ North Ratchaphruek อีกทั้งทำเลราชพฤกษ์โซนนี้ยังเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญๆ และบริษัทชั้นนำมากมาย โดยมีพื้นที่อาคารสำนักงานมากกว่า 1,100,000 ตารางเมตร ทำให้เกิดดีมานด์ของคนทำงานภายในย่านนี้ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดที่พักอาศัยในโซนแจ้งวัฒนะ และขยายตัวมายังโซนราชพฤกษ์เช่นกัน
อีกทั้งทำเลที่ตั้งมีมูลค่าการประเมินที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอดีตราคาที่ดินยังไม่สูงมาก โดยเพิ่มขึ้นกว่า 21% ในรอบการประเมินปี 2566-2569 และมองว่าทำเลนี้มีศักยภาพจะเติบโตได้อีกมากในอนาคต โดยเฉพาะทำเลที่โครงการตั้งอยู่มีโอกาสที่จะเป็น Hub บ้านหรูทำเลถัดไป เช่นเดียวกับทำเลถนนเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา ทำเล กรุงเทพกรีฑา ขณะเดียวกันโครงการยังมีความแตกต่างจากโครงการทั่วไปในตลาดอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์การดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เป็นตัวเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าในทำเลนั้นได้ ในขณะที่ฟังก์ชันถือว่าให้แบบจัดเต็มด้วยพื้นที่ 300-500 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน และยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นของบ้านได้ตามต้องการ เรียกว่า ราคา High-end บนทำเลที่ Premium ในโซนราชพฤกษ์เลยทีเดียว” นางสาวอาทิตยา กล่าวในตอนท้าย