งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 จัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ปิดยอดขายภายในงานไปมากกว่า 4 พันล้านบาท เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ของรัฐ เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย และเหล่าโครงการปล่อยมัดเด็ดโปรโมชั่นเต็มพิกัด พร้อมเผยผลสำรวจชี้ลูกค้าใหม่เดินงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z
ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 เปิดเผยถึงความสำเร็จของการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ระหว่างวันที่ 2 – 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้คอนเซปต์ “Property Solutions” ครบจบเรื่องที่อยู่ทุกอย่างในงานเดียว ซึ่งตลอด 4 วันของการจัดงานได้รับผลตอบรับดีเกินคาด โดยมียอดผู้เข้าชมงานใกล้เคียงกับการจัดงานครั้งที่แล้ว เนื่องจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดงานเดียว จึงสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคที่เข้าชมงานครั้งนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ซึ่งมูลค่าการซื้อขายภายในงานอยู่ที่กว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่โตมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากจบงานจะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว โดยสามารถจัดลำดับประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการจองซื้อภายในงานได้ดังนี้ บ้านเดี่ยว 39.41% รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียม 27.70 % ทาวน์เฮาส์ 11.40 % โฮมออฟฟิศ 11.26% บ้านแฝด 6.56% และอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ 3.68% ในส่วนของสินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน มีผู้ยื่นขอใช้บริการคิดเป็นวงเงินรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ด้านรายละเอียดจากการประมวลผลสำรวจผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าและหน้างานทางด้านต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่ผู้เข้าชมงานมหกรรมฯ มีความประสงค์ที่จะต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และมาตัดสินใจจองในงานทันที โดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Gen Y ในช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมาอยู่ในช่วงอายุ 31-40 ปี ซึ่งงานครั้งนี้ยังมีกลุ่ม Gen Z ที่เกิดระหว่างปี 2540 – 2555 เข้าชมงานเพิ่มมากขึ้นจากครั้งก่อน ตอกย้ำที่ว่า Gen Z กำลังเติบโตขึ้นไปเป็นกลุ่มผู้ซื้ออสังหาฯ หลักแทนที่ Gen X ในอนาคตอันใกล้ เพราะบางกลุ่มเริ่มมีอายุมากพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ ด้วยอาชีพและช่องทางสร้างรายได้เกิดขึ้นใหม่มากมายในสังคมปัจจุบันนี้
“การที่งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 สามารถกวาดยอดขายได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ เป็นเพราะตลาดอสังหาฯ โดยรวมในขณะนี้เริ่มฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งภายในงาน แต่ละแบรนด์ทำโปรโมชั่นสุดพิเศษ ผนวกกับธนาคารชั้นนำ อย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารยูโอบี นำเสนอโปรโมชั่นดอกเบี้ยอัตราพิเศษสำหรับคนที่ยื่นขอสินเชื่อในงาน นอกจากนี้ ช่วงเวลาจัดงานครั้งนี้ มาตรการสนับสนุนของภาครัฐก็ยังไม่หมดอายุ จึงเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งต่อไปที่มีสมาคมอาคารชุดไทยเป็นเจ้าภาพ ได้เริ่มศึกษาแนวทางการวางกลยุทธ์ความร่วมมือของเหล่าดีเวลลอปเปอร์ว่าจะนำเสนอความคุ้มค่าอะไรเพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภคได้อีก และยังจะทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อผลักดันให้มีการขยายมาตรการในปัจจุบันหรือวางมาตรการสนับสนุนใหม่ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 ต่อไป” ดร.ทัพพ์เทพ กล่าว
สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 45 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 มีนาคม 2567 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนายภูมิภัทร พรหมมา รองเลขาธิการสมาคมอาคารชุดไทย เป็นประธานคณะกรรมการจัดงาน ทางสามสมาคมยังคงเจตนารมณ์ที่จะสร้างงานนี้ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกๆ ช่วงวัย ทำให้เรื่องเป็นอยู่ เป็นเรื่องง่าย