“เซ็นทรัล รีเทล” ผนึกกำลัง “เดอะพาเรนท์ทิงค์” ขยายคอมมูนิตี้กลุ่มแม่และเด็ก

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ผู้นำธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผนึกกำลัง เดอะพาเรนท์ทิงค์ (The Parentinc) บริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเป็นบริษัทแม่ของ theAsianparent คอมมูนิตี้แพลตฟอร์มคอนเทนต์สำหรับแม่และเด็กที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้ายกระดับด้านบริการ เสริมแกร่งพอร์ตสินค้ากลุ่มแม่และเด็กของเซ็นทรัล รีเทล และความเป็นผู้นำตลาดของเดอะพาเรนท์ทิงค์ ในประเทศไทย ผ่านการขยายขอบข่ายธุรกิจและสร้างการเติบโตทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์สอดรับแผนธุรกิจแบบ Omni-Centric Retailer

นายไท จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การที่เซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลังกับ เดอะพาเรนท์ทิงค์ ถือเป็นพันธกิจร่วมกันของผู้นำตลาดทั้งสององค์กรยักษ์ใหญ่ที่จะจับมือกันพัฒนาต่อยอดธุรกิจและเพิ่มคุณค่าให้กับตลาดในกลุ่มแม่และเด็ก ได้มีพื้นที่ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการที่มีประโยชน์ ผ่านคอมมูนิตี้แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีจำนวนผู้ติดตามสูงสุดทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก จะไม่หยุดนิ่งที่จะแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ และเราพร้อมแล้วที่จะสร้างพลังขยายเครือข่ายคอมมูนิตี้ของ เดอะพาเรนท์ทิงค์  ให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

จากความร่วมมือในครั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดแม่และเด็ก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ประกอบกับ เดอะพาเรนท์ทิงค์ เป็นคอมมูนิตี้ที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนเลี้ยงลูกทั่วโลกการันตีด้วยยอดผู้ติดตามมากกว่า 35 ล้านคน และมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในเชิงการนำเสนอเนื้อหาครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพ การเตรียมความพร้อมสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ การวางแผนชีวิตครอบครัว พัฒนาการของเด็กในทุกช่วงวัย เทคนิคเคล็ดลับวิธีการเลี้ยงดูลูก ฯลฯ เซ็นทรัล รีเทล จึงให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ชาวไทย ได้มีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นพื้นที่ที่ให้พ่อแม่ได้แลกเปลี่ยนความรู้ แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกในมิติต่างๆ ตลอดจนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ เกี่ยวกับแม่และเด็กที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิมของ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อขยายธุรกิจในกลุ่มแม่และเด็ก (Mom & Kids) ผ่านคอมมูนิตี้แพลตฟอร์มออนไลน์นี้ สอดรับกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ เซ็นทรัล   รีเทล ที่ต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยการเข้าถึงข้อมูลและบริการแบบไร้รอยต่อทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ตอกย้ำการเป็น Omni-Centric Retailer อย่างเต็มรูปแบบ นายไท กล่าวเพิ่มเติม

โรชนิ มาธ์ทานิ (Roshni Mahtani) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The Parentinc Group กล่าวว่า “theAsianparent เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ สำหรับแม่และเด็กที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาอย่างยาวนาน โดยเรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายพื้นที่ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อหาวิธีสนับสนุนและสร้างการมีส่วนร่วมกับคุณแม่ชาวไทยให้มากขึ้น ทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน theAsianparent ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแบบครบวงจรสำหรับคุณพ่อคุณแม่ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ เซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบไร้รอยต่อ มีความหลากหลายและอัดแน่นด้วยคุณภาพ”

ปัจจุบัน theAsianparent เปิดให้บริการใน 13 ประเทศ รวม 11 ภาษา โดยได้ขยายคอมมูนิตี้ออนไลน์เข้าถึงกลุ่มที่เป็นคุณพ่อคุณแม่กว่า 35 ล้านคน ซึ่งมีฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี โดยมีเนื้อหาความเป็นคอมมูนิตี้ และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี เป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างรวดเร็ว     ซึ่งช่วยยกระดับความเชี่ยวชาญ และการพัฒนาแพลตฟอร์มให้หลากหลายและตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มคุณแม่มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีฐานลูกค้าอันแข็งแกร่ง The Parentinc  จึงพร้อมเดินหน้าศึกษาตลาดเพื่อทำความเข้าใจความต้องการในปัจจุบันของคุณแม่ชาวไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คอมมูนิตี้นี้เติบโตต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นิธินันท์ อัศวทร ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ theAsianparent ประเทศไทย และประเทศเวียดนาม กล่าวเสริมว่า “จากการสำรวจของเราพบว่า 90% ของคุณแม่ในประเทศไทยใช้สมาร์ทโฟนและท่องโลกออนไลน์โดยเฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อวัน โดย 57% ของคุณแม่เหล่านี้อาศัยอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ และนี่เป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตมากในปัจจุบัน และเป็นโอกาสของเซ็นทรัล รีเทล ในการเข้าถึงข้อมูลผ่านคอมมูนิตี้ของเรา เพื่อให้มีความเข้าใจที่มากขึ้นและตรงจุดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกของกลุ่มคุณพ่อคุณแม่สมัยนี้ รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้นอีกด้วย”