“A5” เริ่มเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง วางเป้าหมาย 5 ปีนับจากนี้เติบโตก้าวกระโดด ดันยอดรับรู้รายได้แตะ 5,000 ล้านบาท วางแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ชูจุดเด่นพัฒนาโครงการที่แตกต่างภายใต้กลยุทธ์เจาะตลาดนิชมาร์เก็ต
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 หุ้น ‘A5’ ได้เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หลังจากได้รับการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทฯ ต้องการเป็นหนึ่งในหุ้นอสังหาฯ คุณภาพ มีพื้นฐานดี เติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างผลตอบแทนคุ้มค่าแก่ผู้ถือหุ้น ภายใต้วิสัยทัศน์นำบริษัทฯ ก้าวเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของตลาดอสังหาฯ นิชมาร์เก็ต
บริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2565 – 2569) จากปี 2565 วางเป้าหมายรับรู้รายได้ (รายได้รวม) 1,000 ล้านบาท คาดว่าปี 2569 จะมียอดรับรู้รายได้แตะ 5,000 ล้านบาท จากการเร่งเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเป็นปีละไม่ต่ำกว่า 2 – 3 โครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น จังหวัดอุดรธานี ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการอีกจำนวนมาก รวมถึงมองโอกาสขยายการพัฒนาโครงการในจังหวัดอื่นๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุบลราชธานี และมหาสารคาม ตลอดจนการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
แผนงานปี 2565 บริษัทฯ วางแผนเปิด 3 โครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และอุดรธานี มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท ส่วนปี 2566 คาดว่าจะเปิดตัวอีกอย่างน้อย 2 – 3 โครงการ และจะเป็นปีที่มีผลประกอบการโดดเด่น เนื่องจากจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ ‘ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์’ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าชิดลม ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 90% จากมูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท และจะทำให้บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อรองรับแผนงานพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร A5 กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์กว่า 8 ปี พัฒนาที่อยู่อาศัยมาแล้ว 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแนวราบ 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ อาทิ โครงการวนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ มูลค่าโครงการประมาณ 1,900 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่โครงการแรกๆ ในย่านถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายเฟสบ้านสุดท้าย ซึ่งวางเป้าหมายปิดโครงการภายในไตรมาส 2 ปีนี้ , โครงการคอนโดมิเนียมต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ปี 2566 ฯลฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างความแตกต่างให้กับตลาด เน้นพัฒนาโครงการที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในทุกทำเล ซึ่งมาจากการให้ความสำคัญกับการศึกษาและสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในแต่ละทำเลอย่างละเอียด เพื่อนำมาข้อมูลวิเคราะห์และต่อยอดพัฒนาแบบบ้านและฟังก์ชันที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น การพัฒนาบ้านหรู 3 ชั้น ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ทั้ง 3 เจเนอเรชั่น เป็นต้น ทำให้โครงการของ A5 เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านจัดสรรหรือปลูกสร้างบ้านเอง
“เรามั่นใจว่าจากแผนงานที่วางไว้จะนำ A5 ก้าวเป็นบริษัทฯ อสังหาฯ ดาวรุ่งที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วง 5 ปีนับจากนี้ และสามารถเป็นผู้นำอสังหาฯ ในตลาดนิชมาร์เก็ตได้ โดยใช้จุดเด่นด้านการพัฒนาโครงการที่แตกต่างจากคู่แข่งจากการศึกษาข้อมูลความต้องการของลูกค้าในแต่ละทำเลอย่างลึกซึ้ง ทำให้โปรดักต์ของบริษัทฯ มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ดี” นายศุภโชค กล่าว