ออริจิ้นฯ เปิดกลยุทธ์ขยายธุรกิจ รับผู้ร่วมทุน หลากหลายรูปแบบทั้งใหญ่-เล็ก ล่าสุดดึงกลุ่มทุนจากเกาหลีเปิด 2 โครงการ มูลค่า 4,200 ล้านบาท พร้อมชะลอเปิดโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ เหตุซัพพลายล้นตลาด เผยปี 63 เตรียมเปิดใหม่อีก 14 โครงการ รวมมูลค่า 20,000 ล้านบาท
นายพีรระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ ด้วยการเปิดรับพันธมิตร ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ ราย กลาง และรายเล็ก รวมถึงเจ้าของที่ดิน เข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจ ทั้งพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม โดยตั้งเป้าที่จะดัน 6 บริษัทในเครือขึ้นสู่ระดับท็อปใน 5 ปี ด้วยรายได้ 30,000-40,000 ล้านบาท
ล่าสุดได้ตกลงร่วมทุนกับกลุ่มจีเอส เอ็นจิเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม เอส อีแอนด์ซี (GS E & C) จากประเทศเกาหลี ร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ ดิ ออริจื้น ลาดพร้าว 111 มูลค่า 1,900 ล้านบาท และ โครงการ KNIGHTSBRIDGE SPACE พระราม 4 มูลค่า 2,300 ล้านบาท
สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ตั้งไว้ที่ 14 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 12,100 ล้านบาท คิดเป็น 61 % คอนโดมิเนียม 7,900 ล้านบาท คิดเป็น 39 % ตั้งเป้ายอดขาย 21,500 ล้านบาท โดยมาจากการขายโครงการใหม่ 8,500 ล้านบาท โครงการที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 10,000 ล้านบาท และที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 3,000 ล้านบาท ยอดโอน 14,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 16,000 ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ธุรกิจบริการ และธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่องที่จะเริ่มมีรายได้ในปีแรกโดยมาจาก
ในปี 2563 กลุ่มบริษัทฯจะชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ที่มีราคากว่า 200,000 บาท/ตารางเมตร เนื่องจากมีอยู่มากในตลาด โดยครึ่งปีแรกจะเปิดโครงการ THE ORIGIN LADPRAO 111 ,โครงการ KNIGHTSBRIDGE SPACE RAMA 4 โครงการ GRAND BRITANIA Wongwaen Ramintra ,โครงการ BRITANIA Saimai
ครึ่งปีหลัง เปิดโครงการ THE ORIGIN PLUG & PLAY RAMINTRA ,โครงการ HAMPTON SIRACHA ,โครงการ BRIGHTON Bangna KM.26 , โครงการ BELGRAVIA บางนา และราชพฤกษ์ พระราม 5
สำหรับผลประกอบการปี 2562 มีการเปิดโครงการใหม่ 20 โครงการ รวมมูลค่า 24,200 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 16 โครงการ มูลค่า 18,200 ล้านบาท บ้านจัดสรร 4 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ทำยอดขายได้ 28,942 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม 25,822 ล้านบาท บ้านจัดสรร 3,120 ล้านบาท มีรายได้ 14,122 ล้านบาท โดยมียอดโอน 12,279 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 10,722 ล้านบาท บ้านจัดสรร 1,557 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,027 ล้านบาท คิดเป็น 21.4 %