“ศุภาลัย”ตอกย้ำความแข็งแกร่งเดินหน้าเปิดอีก30โครงการ

“ศุภาลัย” ยันยังไม่ปรับแผนปี 63 เดินหน้าเปิดใหม่ 30 โครงการ ตั้งเป้าขาย 26,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 24,000 ล้านบาท พร้อมพลิกแผนการขายคอนโดสร้างเสร็จ ปล่อยเช่าระยะยาว 30 ปี ปลดล็อคโควลูกค้าต้าต่างชาติ จับ 3 กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้สูง คนสูงอายุ และชาวต่างชาติ  และยังตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืน เพื่อพยุงราคาหุ้น

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ได้มีการปรับแผนการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้าง โดยเปิดให้เช่าระยะยาว เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยราคาเช่าซื้อราคาจะถูกลงประมาร 30-35 % และให้ผ่อนดาวน์ได้ 30-60 งวด  เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้สูง และชาวต่างชาติ เนื่องจากมองว่าผู้สูงอายุบางคนไม่ได้ต้องการซื้อไว้เพื่อเป็นทรัพย์สินตกทอด ต้องการซื้อยู่เองเท่านั้น ซึ่งระยะเวลา 30 ปีก็คงเพียงพอต่อการอยู่ไปตลอดชีวิต ส่วนการเปิดให้ต่างชาติเช่าได้ จะช่วยปลดล็อคสำหรับโครงการที่ขายให้กับชาวต่างชาติจนครบโควตาแล้ว สามารถซื้อได้เพิ่มขึ้นในรูปแบบของการเช่า อย่างไรก็ตามกาเปิดให้เช่าระยะยาวถือเป็นการสร้าสีสันให้ตลาด อาจไม่ได้ยอดขายมากนัก เพราะกลุ่มเป้าหมายมีไม่มากนัก เป็นนีดมาร์เก็ตจริงๆ  อีกทั้งบริษัทฯที่จะทำตลาดแบบนี้ได้จะต้องมีฐานะทางการเงินที่แข็งแรง

สำหรับโครงการ “ศุภาลัย พรีมา วิลล่า นครราชสีมา” ซึ่งเปิดไปเมื่อเดือนตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันสามารถกว่ายอดขายไปแล้วกว่า 96 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนแปลงที่เปิดขาย  โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บนพื้นที่โครงการกว่า 56 ไร่  นับเป็นโครงการที่ 6 ในจังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการนี้บริษัทฯซื้อที่ดินมาเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาในราคาไร่ละ 800,000 บาท ปัจจุบันราคาที่ดินขึ้นไปอยู่ที่ 5,000,000 บาท ทำให้บริษัทสามารถสร้างขายได้ในราคาต่ำโครงการแบบเดียวกันในกรุงเทพฯถึงเท่าตัว

การพัฒนาโครงการในกรุงเทพยังมุ่งพัฒนาโครงการในทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างอยางสายสีเหลือง สีชมพู สีส้ม ด้วยการพัฒนาโครงการบ้านระดับราคาตั้งแต่ล้านกว่าบาทไปถึงสิบกว่าล้าน ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจะพัฒนาเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวที่มีต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก เช่น ภูเก็ต สงขลา ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่

นอกจากนี้ ได้มีการซื้อหุ้นคืน โดยเริ่มตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ ถึง 11 สิงหาคม 2563 โดยยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว จำนวน  2 ,000 ล้านบาท จำนวนหุ้น 120,000,000 หุ้น หรือ 5.60 ของจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนต่อจำนวนที่ชำระแล้ว โดยซื้อไปแล้ว 541,261,820 ล้านบาท

ด้านนายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท  ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า `แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่บริษัทสามารถทำยอดขายได้กว่า 22,324 ล้านาท โดยมาจากโครงการคอนโดมิเนียม 38 % และแนวราบ 62 % จากการเปิดตัวทั้งหมด 24 โครงการ

ส่วนรายได้รวมทำได้ 23,957 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 5,403 ล้านบาท ลดลง 6% เนื่องจากมีการเปิดโครงการลดลง  อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 34 % ยอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีประมาณ 38,655 ล้านบาท

นาย ไตรเตชะ กล่าวต่อไปว่า ปีนี้คาดการทำตลาดอสังหาริมทรัพย์ยากกว่าปีที่ผ่านมา เฉพาะแค่ไวรัสโควิด 19 ก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าจะจบเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามถึงขณะนี้ยังคงยืนยันตามแผนที่เปิดเผยไปเมื่อต้นปี คือเปิดใหม่อีก 30 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกจะเปิดตามแผน แต่หลังจากนั้นอาจมีการปรับไปตามภาวะตลาด บางโครงการอาจเปิดก่อนหรือหลังแผนที่วางไว้ แต่ถ้าถึงเดือนเมษายนปัญหาไวรัสโควิด19 ยังไม่จบก็จะไม่เปิดโครงการคอนโดมิเนียม เพราะแม้ปัญหาไวรัสโควิด 19 จะจบก็ยังต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือนสถานการณ์จึงจะกลับมาเหมือนเดิม ส่วนแนวราบจะไม่เปลี่ยนแปลง เพราะมีการก่อสร้างไปแล้วยังไงก็จะเปิดตามแผนที่วางไว้

ส่วนของยอดขาย ในช่วง 2 เดือนแรกทำได้ไม่น้อยกว่าในช่วงเดียวกันของปีทีผ่านมา ทำให้เรายังคงยืนยันเป้ายอดขายปี 2563 ที่ตั้งไว้เมื่อก่อนสิ้นปี คือ 26,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 24,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบไว้จัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท งบการก่อสร้าง 12,000 ล้านบาท และด้วยภาวะเศรษฐกิจจะทำให้ราคาที่ดินอยู่ในภาวะที่สมเหตุสมผล

สำหรับเป้ายอดขายปี 2563 ตั้งไว้ที่ 26,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 24,000 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 25 โครงการ และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดโครงการในจังหวัดใหม่ๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และฉะเชิงเทรา โดยเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ 8,000 ล้านบาท งบก่อสร้าง 12,000 ล้านบาท