แสนสิริรุกเดินหน้าสู่เป้าหมาย ผู้นำตลาดแนวราบใน 3 ปี เผยแผนแนวราบไตรมาสสุดท้าย ปี 62 เปิด 8 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ลบ.มั่นใจยอดขายและยอดโอนแนวราบ 15,000 ลบ. ตามเป้าหมาย ล่าสุดเปิดตัว “อณาสิริ บางใหญ่” มูลค่าโครงการ 1,900 ลบ.
นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้เดินหน้ารุกสู่เป้าหมายผู้นำตลาดแนวราบตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยวางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบในช่วงไตรมาสสุดท้าย ของปีนี้ 8 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ ทาวน์โฮม 4 โครงการ และมิกซ์โปรดักส์อีก 1 โครงการ
ทั้งนี้จากความสำเร็จจากกลยุทธ์การรุกตลาดแนวราบในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดีล่าสุดบริษัทจึงได้นำแบรนด์แนวราบ “อณาสิริ” ภายใต้คอนเซ็ปต์ บ้านที่ รวมสังคมดีๆ เอาไว้ด้วยกัน ในรูปแบบมิกซ์โปรดักส์ตอบรับทุกความต้องการลูกค้าไว้ในโครงการเดียวที่ได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดต่างจังหวัดทั้งโครงการ อณาสิริ อยุธยา ซึ่งมียอดขายในเฟสแรก 65% และ อณาสิริ มะลิวัลย์ ขอนแก่น ที่เปิดการขายในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
และมียอดขายในเฟสแรกไปแล้วกว่า 50% มาเปิดการขายเป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในชื่อโครงการ “อณาสิริ บางใหญ่” ประกอบด้วย บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว จำนวนทั้งสิ้น 423 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท โดยบริษัทได้เปิดพรีเซลล์ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า สามารถสร้างยอดขายไปได้ถึง 30 ยูนิตในวันพรีเซลล์ และคาดว่าสิ้นปีจะทำยอดขายได้ 50 ยูนิต โดยบริษัทได้มอบโปรโมชันรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท* ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนและฟรีค่าส่วนกลางจนถึงเดือนธันวาคม 2564 มูลค่ารวมสูงสุดถึง 300,000 บาท*
จากความเชื่อมั่นในการพัฒนาโครงการ ภายใต้แบรนด์แสนสิริรวมถึงภาพรวมจุดขายโครงการ บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “อณาสิริ บางใหญ่” บนพื้นที่ 82 ไร่ครึ่ง ต่อยอดความสำเร็จและเจาะตลาดเพื่อเติมเต็มทุกความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลย่านบางใหญ่ – บางบัวทอง ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้แสนสิริประสบความสำเร็จจากการปิดการขายบ้านเดี่ยวแบรนด์คณาสิริไปแล้วถึง 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคณาสิริ วงแหวน – พระราม 5, โครงการคณาสิริ ศาลายาและโครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า – กาญจนา รวมถึงยังมีโครงการยังเปิดการขาย คือ คณาสิริ ศาลายา – ปิ่นเกล้า ที่มียอดขายแล้ว 40%
สำหรับโครงการอณาสิริ บางใหญ่ จำนวนทั้งสิ้น 423 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ 82 ไร่ ประกอบด้วย บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว สไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบให้ทุกพื้นที่อยู่อาศัยใช้สอยได้อย่างลงตัวกับการใช้ชีวิตและพร้อมรองรับครอบครัวทุกขนาดให้เลือกถึง 4 แบบ บนพื้นที่ 130 – 170 ตารางเมตร จากชื่อแบบบ้านที่มีแรงบันดาลใจจากชื่อของดอกไม้ จากบริบทของพื้นที่ ที่ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประดับ ทำให้ถนนกาญจนาภิเษกถูกยกให้เป็น “ถนนสายดอกไม้” จึงเป็นที่มาแนวคิดในการออกแบบโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ “Blooming design” ที่ถ่ายทอดออกมาบนความโมเดิร์น เพื่อให้เข้ากับคุณรุ่นใหม่ ที่พร้อมสร้างความรู้สึกที่หลากหลายด้วยฟังก์ชัน ให้เกิดชีวิตชีวาให้ทุกพื้นที่ในโครงการ สู่คอนเซ็ปต์ อณาสิริ บางใหญ่ “ความหลากหลายที่ลงตัว” ประกอบด้วยชื่อแบบบ้านที่มีแนวคิดมาจากพรรณไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ ได้แก่ Camellia (คาเมเลีย) บ้านแฝดในความรู้สึกบ้านเดียว พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร, แบบบ้าน Tulip – (ทิวลิป) บ้านเดี่ยวเพื่อครอบครัวเริ่มต้น พื้นที่ใช้สอย 138 ตารางเมตร, แบบบ้าน Iris – ไอริส บ้านเดี่ยวเพื่อครอบครัวขยาย พื้นที่ใช้สอย 153 ตารางเมตร และ แบบบ้าน Peony – พีโอนี บ้านเดี่ยวเพื่อครอบครัวขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 170 ตารางเมตร เปิดขายในระดับราคา 3.79 – 6 ล้านบาท
อณาสิริ บางใหญ่ มีจุดขายหรือความโดดเด่นในเรื่องฟังก์ชันการจัดวางพื้นที่ใช้สอยที่เริ่มต้นถึง 4 ห้องนอนในทุกแบบบ้าน พร้อมนวัตกรรม “Cooliving Designed Home”ที่แสนสิริคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยทำให้บ้านปลอดโปร่ง เย็นสบาย ประกอบด้วย ช่องระบายอากาศและแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา เพื่อทำให้อากาศภายในตัวบ้านเย็นลง,Breeze Panel ช่องระบายอากาศบริเวณหน้าต่างเพื่อการถ่ายเทอากาศภายในบ้าน, UV Shield สีทาภายนอกชนิดพิเศษที่สะท้อนความร้อนของแสงแดด ออกจากตัวบ้านในระหว่างวัน และยังเลือกใช้กระจกเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนี้ภายในบ้านยังประกอบด้วยเทคโนโลยี สมาร์ทโฮม อาทิ กล้อง IP Camera, เซนเซอร์ระบบจับการเคลื่อนไหว, ระบบสั่งการเปิดไฟอัตโนมัติ, หลอดไฟ LED ทั้งหลังเพื่อประหยัดพลังงาน และระบบไฟโรงจอดรถเปิดปิดอัตโนมัติ
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกลยุทธ์ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานต์ ทำให้เชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนโครงการแนวราบได้ 15,000 ล้านบาทได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” นายสมเกียรติ กล่าว