นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรีคอนซูเมอร์ เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากการที่ ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงถึง 12.96 ล้านล้านบาท หรือราว 80 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจะออกมาควบคุมภาระหนี้ต่อรายได้ให้ไม่เกิน 70 % จะส่งผลกระทบต่อลูกค้าใหม่ของกรุงศรี คอนซูเมอร์ ประมาณ 15 % ที่จะไม่ได้รับอนุมัติ อย่างไรก็ตาม แต่ละแบงก์จะมีมาตรฐานการควบคุมความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การควบคุมคงไม่ทำให้หนี้ครัวเรือนลดน้อยลง แต่อาจช่วยชะลอตัวลงได้บ้าง โดยส่วนใหญ่เป็นหนี้สินเกี่ยวกับบ้าน อย่างก็ตามการควบคุมที่ดีที่สุดคือ ต้องทำให้หนี้ทั้งหมดเข้าสู่ระบบ เพราะถ้าเราเห็นรายละเอียดเกี่ยวกับหนี้มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยควบคุมได้ดีขึ้นเท่านั้น โดยในส่วนของกรุงศรีคอนซูเมอร์ ที่เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ 50 % มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 กรุงศรีคอนซูเมอร์มีจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่รวม 479,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 33 % แบ่งเป็น บัญชีบัตรเครดิตใหม่ 274,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 34 % บัญชีสินเชื่อใหม่ 205,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 32 % โดยฐานลูกค้ามีจำนวนบัญชีรวมมากกว่า 9 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นมากกว่า 8 % ในขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างรวม 135,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 % ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 165,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 12 % ยอดสินเชื่อใหม่ 50,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 17 %
ในส่วนของการผ่อนชำระสินค้า หมวดที่มีการใช้จ่ายสูงสุด คือ อันดับ 1 คือ สมาร์ทโฟน มีอัตราการเติบโตลดลง 10 % 2.สินค้าไอทีและกล้องถ่ายภาพ เพิ่มขึ้น 18 % 3.ทองคำ เพิ่มขึ้น 29 % 4. เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน เพิ่มขึ้น 44 % 5.ความงามเพิ่มขึ้น 9 % 6. ยางและอุปกรณ์รถยนต์เพิ่มขึ้น 8 % 7.ประกันภัยเพิ่มขึ้น 19 % 8. อุปกรณ์ตกต่างบ้านเพิ่มขึ้น 24 % 9.โรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 37 % 10.ออนไลน์ เพิ่มขึ้น 26%
ในขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต อันดับ 1 คือ ประกันภัย เพิ่ม 7 % 2.ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ต เพิ่มขึ้น 10 % 3.น้ำมันเพิ่มขึ้น 6 % 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 20 % 5.ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 16 % 6.ห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น 19 % 7.แฟชั่นเพิ่มขึ้น 13 % 8.อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 14 % 9.โรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 20 % 10.เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไอที มือถือเพิ่มขึ้น 20 %
ส่วน การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโต 14 % โดยยังคงรักษาความเป็นผูนำในร้ายอาหารประเภท Chain Dining รวมถึงขยายไปยังร้านอินเทรนด์ ครอบคลุมกว่า 3,000 ร้านทั่วไทย และเป็นพันธมิตรกับแอบพลิเคชั่นด้านอาหาร ต่อยอดสิทธิประโยชน์ร่วมกัน
ห้างสรรพสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น19 % ด้วยการชูจุดแข็งและแตกต่างด้วย “Core Benefit”บัตร KSE แลกคะแนนรับ 20 % พร้อมเสริมด้วยการให้เครดิตเงินคืนทุกวัน แลกรวมสูงสุด 17% รวมถึงขยายตลาดด้วยการรุกคืบ ช้อปปิ้งออนไลน์
แฟชั่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13 % โดยเน้นแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ ทั้งช่วงสินค้าใหม่ และเทศกาลส่วนลด พร้อมขยายไลฟ์สไตล์ไปยังหมวดกีฬา และเครื่องสำอาง ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50 % และเครดิตเงินคืนสูงสุด 20 %
ช้อปปิ้งออนไลน์มีอัตราเติบโตขึ้น 60 % ด้วยการเพิ่มฐานลูกค้า และเพิ่มความถี่ ช้อปปิ้งออนไลน์ โดยแจกโค้ดส่วนลดสูงสุด 30 % ควบคู่กับการให้ส่วนลดเพิ่มในเทศกาลพิเศษ และโปรแกรมแลกรับเครดิตรวมสูงสุด 15 %
นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี เอไอ มะนาว(AI MANOW) มาช่วยให้บริการในส่วนของ Call Center โดยในช่วงแรกคงจะตอบคำถามให้กับลูกค้าที่ถามคำถามซ้ำๆ เช่น ยอดใช้จ่ายบัตร คะแนนสะสมบัตรเครดิต วันครบกำหนดชำระเงิน ส่วนคำถามที่ซับซ้อนคงต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบให้มีความสมบูรณ์ประมาณ 2 ปี โดยคาดว่าจะให้ เอไอ มะนาวช่วยตอบคำถามลูกค้าได้ประมาณ 30 % โดยปัจจุบันลูกค้าที่โทร Call Center เข้ามาจะมีผู้รับสายภายในเวลาที่มีเสียงเรียกไม่เกิน3 ครั้งประมาณ 95 %