เจียไต๋ ผู้นำธุรกิจการเกษตรครบวงจรของประเทศไทย เดินหน้าขยายธุรกิจเมล็ดพันธุ์ในตลาดเอเชียอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแบรนด์ใหม่และสำนักงานประจำประเทศอินเดียและฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ เพื่อมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมการเกษตร ด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการเกษตรและเมล็ดพันธุ์คุณภาพ มาพร้อมร่วมสร้างพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนให้แก่เกษตรกร
นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า “ประเทศอินเดียและฟิลิปปินส์เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง การขยายธุรกิจเมล็ดพันธุ์ การเปิดตัวแบรนด์และสำนักงานเจียไต๋ประจำประเทศอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบงกาลูรู (Bengaluru) เจียไต๋ อินเดีย ได้คัดเลือกสายพันธุ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรในอินเดีย และพัฒนาในกลุ่มพันธุ์ผักลูกผสม พร้อมจัดกิจกรรมฟีลด์เดย์ ณ คันนำมังคลา (Kannamangala) เมืองเบงกาลูรู เพื่อพาตัวแทนจำหน่ายและเกษตรกรจากทั่วประเทศ เข้าชมแปลงสาธิตที่จัดแสดงสายพันธุ์ที่เจียไต๋ได้เปิดตัว เช่น มะเขือเทศ พริก แตงโม เมล่อน แตงกวา รวมถึงข้าวโพดหวานที่เป็นโครงการปรับปรุงพันธุ์ล่าสุดจากเจียไต๋
นอกจากการขยายธุรกิจตลาดเมล็ดพันธุ์ผักสู่ประเทศอินเดียแล้ว เจียไต๋ได้ต่อยอดธุรกิจไปยังตลาดฟิลิปปินส์ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ และสำนักงานเจียไต๋ประจำประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแฟร์เลน เมืองตาร์ลัก (Fairlane, Tarlac City) เจียไต๋ทำการบุกตลาดใหม่ ด้วยการจัดแปลงสาธิตโชว์สายพันธุ์ (Field Days) ในพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ที่สถานีบาลิบาโก (Balibago) เมืองตาร์ลัก และสายพันธุ์กลุ่มเด่นๆ เช่น ข้าวโพดหวานและข้าวโพดข้าวเหนียว แตงโม มะเขือเทศ และมะระ ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร กลุ่มผู้รวบรวมผลสด และตัวแทนจำหน่าย ซึ่งสายพันธุ์ของเจียไต๋เหล่านี้ ให้ผลิตผลดี ทนทานต่อศัตรูพืช โรคพืช และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนได้สูง นอกจากนี้ ภายในงานมีคณะผู้เชี่ยวชาญของเจียไต๋ให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เทคนิค วิธีการปลูกที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด
“เจียไต๋เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเมล็ดพันธุ์และความรู้ต่างๆ ของบริษัทฯ จะส่งมอบคุณค่าให้แก่เกษตรกร ลูกค้า และชุมชนในวงกว้าง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจียไต๋ได้มุ่งมั่นพัฒนาเมล็ดพันธุ์คุณภาพที่สร้างความสำเร็จให้กับเกษตรกรและผู้บริโภค โดยในอนาคต บริษัทฯ จะยังคงมองหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับประเทศอินเดียและฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวให้ทันความท้าทายทางการเกษตรในอนาคต” นายมนัส เจียรวนนท์ กล่าวสรุป