เปิดงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงาน “สถาปนิก 62” ภายใต้แนวคิด การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมเพื่อความยั่งยืน มีผู้แสดงสินค้าจาก 40 ประเทศทั่วโลก เต็มพื้นที่ 75,000 ตารางเมตร เช่น ออสเตรเลีย จีน เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ตุรกี อังกฤษ อเมริกา และเวียดนาม โดยงานจัดระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2562 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้จัดตั้งเป้าผู้ชมทะลุ 5 แสนราย คาดทำยอดขายกว่า 10,000 ล้านบาท
การจัดงานครั้งนี้นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าคือการขยายฐานสมาชิกให้กว้างขึ้น ไม่ใช่เฉพาะแค่กลุ่มสถาปนิกเท่านั้น แต่รวมถึงผู้แสดงสินค้าและผู้ชมงานสถาปนิกด้วย ปัจจุบันงานสถาปนิก ได้กลายเป็นงานแสดงด้านสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งเราคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นเป็นงานระดับโลกในอนาคตอันใกล้นี้”
ในขณะที่ดร.อัจฉราวรรณ จุฑารัตน์ ประธานจัดงานสถาปนิก ’62 กล่าวถึงการจัดงานปีนี้ว่า “การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก มลพิษทางสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคน สังคม และเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวข้องกับวิชาชีพสถาปัตยกรรมโดยตรง ทางคณะกรรมการจัดงานสถาปนิกปีนี้ จึงกำหนดให้แนวคิดการจัดงานคือ “กรีน อยู่ ดี : Living Green” นำเสนอการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการออกแบบเพื่อวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
การจัดแสดงออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนผู้แสดงสินค้าที่รวมแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก และส่วนพื้นที่กิจกรรมของสมาคมสถาปนิกฯ ขนาดประมาณ 5,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยนิทรรศการธีมงาน (Thematic Exhibitions) อาทิ นิทรรศการ “Green Building Showcase” การออกแบบอาคารสีเขียวจากนักออกแบบชั้นนำของเอเชีย นิทรรศการ “ภูมิปัญญาจาก 3 ภูมิภาคสู่ปัจจุบัน” นำเสนอนวัตกรรมท้องถิ่นเพื่อการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนในอนาคต นิทรรศการ “Go Zero Waste ชีวิตใหม่ ไร้ขยะ” นิทรรศการ “Innovative Green Products” รวมวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นิทรรศการ “ASA Member” จัดแสดงผลงานของสมาชิกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ที่ผสมผสานเทคโนโลยี VR นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมสัมมนา “ASA Seminar” ภายใต้ธีม ธาตุ 4+1 : ดิน น้ำ ลม ไฟ และมนุษย์ ซึ่งมีหัวข้อสัมนาหลากหลาย อาทิ สถาปัตยกรรมหายใจได้ เมืองอัจฉริยะ เรื่องของแสงกับเมืองใหญ่ รวมถึงสวนสาธารณะ
นอกจากนี้ นีโอยังได้เชิญบริษัทที่อยู่ในวงการสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างจากทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่าง CLMV มาร่วมเจรจาธุรกิจ โดยคาดการณ์ว่าจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 400 นัดหมาย และคาดว่าตลอดทั้งงานนี้จะก่อให้เกิดการซื้อขายรวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท