อนันดาฯ เดินหน้าเปิดใหม่ 10 โครงการ มูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท ยึดคอนโดติดรถไฟฟ้าเป็นหลัก เกี่ยวก้อยมิตซุย ฟูโดซัง 9 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย ยอดโอน 36,000 ล้านบาท พร้อมเร่งสร้างรายได้ประจำ ขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจโรงแรม ซื้อหุ้น ดุสิตธานี มูลค่า 510 ล้านบาท หวังสร้างรายได้ระยะยาว
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลล็อปเม้นท์ เผยว่า ในปี 2561 บริษัท สามารถสร้างสถิติในส่วนของยอดโอนถึง 33,171 ล้านบาท เติบโต 120 % แบ่งเป็นยอดโอนจากคอนโดมิเนียม 93 % แนวราบ 7 % โดยยอดโอนดังกล่าวมาจากลูกค้าต่างชาติ 6,300 ล้านบาท คิดเป็น 19 % เพิ่มขึ้น 300 %จากปีก่อน
ส่วนยอดขายทำได้ 31,483 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคนไทย 21,364 ล้านบาท คิดเป็น 68 % ยอดขายจากต่างชาติ 10,119 ล้านบาท คิดเป็น 32% โดย ณ สิ้นปี 2561 มีแบ็คล็อคอยู่ 41,000 ล้านบาท ซึ่ง 59 % สามารถโอนได้ในปี 2562 จำนวน 21,284 ล้านบาท อีก 13,148 ล้านบาท และ 6,630 ล้านบาท โอนได้ในปี 2563 และ 2564 ตามลำดับ
ในส่วนของสต็อกคอนโดมิเนียมอยู่ 16, 000 ล้านบาท ที่ต้องขายออกไป ดังนั้นบริษัทจะมีการจัดโปรโมชั่นทุกเดือนเพื่อระบายสินค้าออกไปให้ได้ 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
สำหรับปี 2562 มีแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการมูลค่ากว่า 38,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เป็นคอนโดมิเนียม 8โครงการ โดยเป็นการร่วมทุนกับ มิตซุย ฟูโดซัง 7 โครงการและแนวราบ 2 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที 36,000 ล้านบาท เติบโต 14% โดยเป็นยอดขายจากคอนโด 89 % และยอดขายมาจากชาวต่างชาติ 20-30% ในขณะที่เป้ายอดโอน ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท เติบโต 9% โดยโครงการที่จะเปิดใน ปี 2562 จำนวน 87 % มีราคามากกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร 13 % ราคาขายน้อยกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร
นายชานนท์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการขยายการลงทุน ในธุรกิจที่่สร้างรายได้ประจำเช่น เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม ล่าสุดได้เข้าซื้อหู้นลงทุนในบริษัท ดุสิตธานี จำกัด 5 % มูลค่า 510 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ในส่วนที่เป็นรายได้ประจำ 1,700 ล้านใน 5 ปี โดยโครงการที่เป็นไฮไลท์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ คิว พหล-สะพานควาย ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย (0 เมตร) บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,114 ห้อง มูลค่าโครงการประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 อาคาร อาคารเอ มีจำนวนห้อง 396 ห้อง อาคารบี มีจำนวนห้อง 287 ห้อง และอาคารซี มีจำนวนห้อง 431 ห้อง ทั้งยังมีร้านค้าปลีก 5 ร้าน จุดเด่นของโครงการ คือ ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสะพานควาย โดยมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนามาจาก Urban – Human – Nature (เมือง – คน -ธรรมชาติ) Urban – คือการเชื่อมต่อ 0 เมตรจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานควาย Human – คือการเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของผู้อยู่อาศัย โดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกประจำโครงการ, รูปลักษณ์โครงการ หรือ สังคมของผู้พักอาศัย ที่มุ่งเน้นถึงสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย Nature – คือการผสมผสานธรรมชาติเข้าไปในรูปลักษณ์การดีไซน์ของตัวตึก โดยโครงการจะเปิด Presales กลางปีนี้ และ โครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นต์ ณ ชายหาดพัทยากลางบนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ มีจำนวนห้องพัก 324 ห้อง มูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้อนาคตการลงทุนคงไม้ได้อยู่เฉพาะที่เมืองไทย ขณะนี้อยู่มนขั้นการศึกษา โดยที่เข้าไปดูมาแล้วคือ เวียดนาม และอินโดนีเซีย
สำหรับงบลงทุนปีนี้ตั้งไว้ที่ 23,000 ล้าน บาท เป็นงบเพื่อจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท งบก่อสร้าง 12,000 ล้านบาท งบลงทุนในเชอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ 3,000 ล้านบา