บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการมิกซ์ยูสแฟล็กชิป สิงห์ คอมเพล็กซ์ ในเฟสแรกส่วนออฟฟิศ-ค้าปลีก บนหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี ทำเลที่ คับคั่งด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังกว่า 30 ร้าน เชื่อจะเป็นหนึ่งธุรกิจหลักที่ผลักดันให้สิงห์ เอสเตท บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทในปี 2020
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดให้บริการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ โครงการมิกซ์ ยูส แฟล็กชิป บริเวณหัวมุมถนนอโศก – เพชรบุรี ในส่วนเฟสแรกเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย สำนักงานเกรดเอ ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (The Office at SINGHA COMPLEX) และพื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ทั้งนี้อาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ได้เตรียมความพร้อมในการเป็นสมาร์ทออฟฟิศอย่างสมบูรณ์แบบโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ภายในอาคารควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่นที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานและผู้ใช้บริการพื้นที่ค้าปลีก ด้านจำนวนผู้เช่า ขณะนี้มีทำสัญญาเช่าไปแล้วกว่า 80% และตั้งเป้าว่าจะมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ 100% ภายในสิ้นปี 2561 โดยขณะนี้เริ่มมีบริษัทฯ ทยอยย้ายเข้ามาในอาคาร และจะมีพนักงานออฟฟิศเข้ามาทำงานในอาคารภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน รวมกว่า 3,000 คน
สำหรับอาคารค้าปลีกสูง 4 ชั้น ที่เตรียมเป็นพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ของทั้งพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม THE ESSE at SINGHA COMPLEX รวมถึงเป็นแหล่งกินช้อปแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ทั้งไทยและต่างชาติในย่านอโศก-เพชรบุรี ประกอบไป ด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังมากมาย อาทิ Gontran Cherrier, Bake Cheese Tart, Coffee arigato, Dressed, Bake Café by Farm Design, THE COFFEE CLUB, On-Yasai, Hoshi, Hokkaido Butadon Tokachi, Phuket Town, EST.33, ซาลาเปาโกอ้วน, Gyu Kaku, Kazan และบริการ Wellness อื่น ๆ อาทิ Cut & Curl, ศูนย์ทันตกรรม ALL ABOUT TEETH, BLOSSOM CLINIC, EYE CLASS, Digital Banking ได้แก่ SCB Express, BAY และร้าน Tops Daily ซึ่งเป็นคอนเซปต์สโตร์ท็อปส์ดิจิตอลแห่งแรกของเมืองไทย รวมถึงร้าน 1887 ศูนย์กลางประชาสัมพันธ์เมืองท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่นำเสนอสินค้าพื้นเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น โดยมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าใหม่ๆ ทุกเดือน นอกจากนี้ยังมี foodPLACE ศูนย์อาหารซึ่งเปิดให้บริการอยู่บนชั้น 3 ของพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเป็นโซนอาหารที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังในตำนานทั่วกรุงเทพมหานครมาเปิดให้บริการ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัฒนาพานิช, ข้าวแกงเจ๊จู, ไก่ย่างจีระพันธ์, มงคลชัย ข้าวมันไก่ หลา ลูกชิ้นปลาเยาวราช, ราดหน้าครัวอัปสร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี Co-working space และพื้นที่รีแลกซ์ที่ลูกค้าสามารถนั่งทำงานและพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย โดยจะมีบริการ Free Super WIFI ความเร็ว 1GB/Sec. ซึ่งจะเป็น WIFI ฟรีที่เร็วที่สุดในกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งอาคาร รวมถึงในบริเวณดาดฟ้าชั้น 4 ยังจัดให้เป็นสวนหย่อมสีเขียวกลางใจเมือง พื้นที่พบปะพูดคุยกันแบบคอมมูนิตี้ของทุกๆ คน ซึ่งโดยรวมทั้งหมดของพื้นที่ค้าปลีกขณะนี้เปิดให้บริการแล้วกว่า 70% และจะมีการเปิดร้านทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบภายในต้นปีหน้า
“จากการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้เช่าและลูกค้าที่เข้ามาในสิงห์ คอมเพล็กซ์ จะช่วยผลักดันให้สิงห์ เอสเตท บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทในปี 2020