เซกิซุย เคมีคอล ร่วมทุน พร้อมเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ขายบ้านระบบโมดูล่าร์ใน 4 โครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีช ตั้งเป้ายอดขายหลัง 3 ปี 100 หลังต่อปี เผยร่วมทุนค่ายเอสซีจี 9 ปี ขายบ้าน HEIM ได้ 800 หลัง ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่างล่าสุดว บริษัทได้ลงนามร่วมทุนกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท พีเอฟ–เซกิซุย เจวี จำกัด (PF–Sekisui JV Co.,Ltd.) ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทและเซกิซุย เคมิคอล ถือหุ้นในสัดส่วน 51:49 โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์ ในเฟสต่อเนื่องของโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ เบื้องต้นใน 4 โครงการ ทำเล กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และ รัตนาธิเบศร์ รวมจำนวน 74 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 2,230 ล้านบาท ตั้งเป้าขายหมดภายใน 2 ปี อีกทั้งยังได้วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำในตลาดบ้านหรูระดับบนภายในระยะ 3 ปีข้างหน้า โดยวางเป้าจะมีส่วนแบ่งในตลาดบ้านระดับบนเพิ่มเป็นปีละ 4,000 ล้านบาท จาปัจจุบันที่มีอยู่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมมือกับเซกิชุยฯใรนครั้งนี้จะทำให้เราสามารถพัฒนาโครงการได้เร็วขึ้น เพิ่มส่วนแบ่งในสตลาดบ้านกลุ่มพรีเมี่ยม
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ทำการคัดสรรทำเลที่ดินที่เหมาะสม ส่วนการออกแบบบ้านเป็นการทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีให้เลือก 4 แบบ ระดับราคา 25-60 ล้านบาท ขนาดตั้งแต่ 255-475 ตร.ม. เป็นรูปแบบเฉพาะสำหรับโครงการของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่นำเอาประสบการณ์ในการออกแบบบ้านหรูระดับบน มาผสมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยของญี่ปุ่น สำหรับส่วนประกอบของบ้านที่จะนำมาประกอบเป็นบ้านระบบโมดูลาร์ ดำเนินการผลิตโดย บริษัท เซกิซุย–เอสซีจี อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เซกิซุย เคมิคอล และ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยโครงสร้างกว่า 80% จะถูกผลิตในโรงงาน ซึ่งจะทำการผลิตส่วนประกอบของบ้านแยกเป็นส่วนๆ สำเร็จรูป และประกอบชิ้นส่วนของบ้านทั้งหมดจนเรียบร้อย แล้วนำมาติดตั้งที่หน้างาน
ด้านนายMichio Sakai ,Department Manager, International Business Promotion, Sekisui Chemical Co., Ltd, Housing Company กล่าวว่า การร่วมมือกับบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ส่งผลดีต่อบริษัทร่วมทุนของเอสซีจี ทำให้สามารถขายบ้านในระบบโมดูล่าร์ได้มากขึ้น โดยในช่วงเวลา 9 ปี นับแต่ที่บริษัทเอสซีจีผลิตภัณฑ์ก่อสร้างบริษัทในเครือ ซีเมนต์ไทย ได้ร่วมทุนกับเซกิซุย เคมีคอล จัดตั้งบริษัท เอสซีจี-เซกิซุย เซลส์ เพื่อสร้างบ้านในระบบโมดูลาร์ภายใต้แบรนด์ SCG HEIM โดยมีการตั้งโรงงานผลิตส่วนประกอบของบ้านในระบบ โมดูลาร์ ที่อ.หนองแค จ.สระบุรี มีกำลังการผลิต 220 หลังต่อปี มีการตั้งเป้ายอดขาย ภายในสิ้นปี 2553ไว้ 100 หลัง และหลัง 3 ปีจะทำยอดขายได้ 220 หลังหรือประมาณ 1,0000 ล้านบาท ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบัน สามารถขายได้ 800 หลัง ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้